สุดยอดคัมภีร์การทำ CJ

       ผมขอมาเล่าประสบการณ์ รูปแบบการทำ CJ ที่ผมทำมาใน
       ว่าผมเริ่มทำมายังไง ผิดพลาดตรงไหน และได้กำไรยังไง บอกใว้ก่อนว่า
คือเริ่มแรกรู้จัก Cj เพราะ ผมก็อ่านมาจากหนังสือ เล่มหนึ่ง
ผมก็เลยลองทำดู อยากบอกตรงๆว่าในหนังสือ มันอ่านแล้วทำให้ดูง่าย แต่จริงๆมันยาก
       ข้อผิดพลาดคือ ผมคิดว่าธุรกิจนี้มันง่าย ทำให้ขาดการหาข้อมูลเพิ่มเติม ประมาท เท่ากับ ขาดทุน

จนมาเจอเวบไซ้นี้ ผมก็ค่อยๆเริ่มอ่านและศึกษา มาเรื่อยๆ

       บางวิธีเค้าบอกว่า เราต้องหาคีเวิอดที่มีคู่แข่งน้อย บิดราคาต่ำๆ ผมก็ลองทำแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
จนผมมาคิดดูว่า ไอ้คีเวิอร์ดที่คนเค้ามีคู่แข่งเยอะๆ เค้าแข่งกันไปทำไม ถ้ามันไม่ได้กำไร แล้วเค้าเสียเงินให้กูเกิ้ลกันไปทำไม
       ผมใช้คีเวิอดที่มีคู่แข่งเยอะเท่านั้น ส่วนมากจะเป็นคีเวิอร์ดที่ยาว 2-3 คำเท่านั้น เช่น love you หรือ i love you

คือ เข้าไปสู้กับเค้าเลย ไม่ต้องมานั่งหาคีเวิอร์ดใหม่ ใช้ AD กับ Landing page เข้าไปสู้
       ถ้า ad คุณอยู่อันดับที่ 1 ใน คีเวิอร์ด ที่คนใช้เยอะๆซักคำนึง ชีวิตนี้คุณแทบจะไม่ต้องทำมาหากินอะไรอีกแล้ว

       หลายคนเค้าก็บอกว่า ถ้าเราทุนน้อย อย่าไปสู้กับเค้าเลย สู้ไม่ได้
จริงๆมันก็ถูกต้อง แต่ข้อดีของโฆษณา มันแข่งกันที่ ไอเดีย ไม่ใช่ทุน
(อย่างหนังเรื่อง แบล์ วิส โปรเจ็ค ใช้เงินลงทุน 5 ล้านบาท แต่ทำเงินได้เท่ากับ หนัง สตาวอร์ที่ลงทุนหลายร้อยล้าน)

       เริ่มแรก เลือกสินค้า ใน CJ ตอนแรกเราต้องดูว่า เราถนัดอะไร ชอบอะไร ก็ลองเลืกสินค้านั้นๆก่อน ผมรักหมา ผมเลยขาย Dog.com
       พอเลือกสินค้าได้ ผมก็ต้องเข้าไปที่เวบเจ้าของสินค้า แล้วดูว่า เวบนั้น มี google pagerank เท่าไร ถ้าน้อยกว่า 4 อย่าไปทำเสียเวลา
       แต่ปัญหาใหญ่ของคนไทย คือ เค้าจะไม่ค่อย รับ ยิ่งมือใหม่ที่ epc และ epm ขึ้นเป็น new จะยิ่งยาก
       วิธีแก้คือ คุณต้องไปสร้างเวบไซที่เกี่ยวข้องมาเวบนึง หรือ ไปก้อบใครมาก็ได้ แล้วก็เมล์ ไปหา เจ้าของสินค้า คืแพยายามหาอีเมล์ของเจ้าของสินค้าให้ได้มากที่สุด
แล้วก็เมล์ เช่น aff@abc.com , admin@abc.com ,info@abc.com ,webmaster@abc.com
       คือ บางทีเราเมล์ไปเจอ เวบมาสเตอร์ หรือ พนักงานคนอื่น เค้าก็อาจจะฟอร์เวิด เมล์เราไป ให้คนที่มีหน้าที่อนุมัดให้เราอีกที

       ในเมล์คุณต้องบอกไปเลยว่า เป็นใคร มาจากไหน เป็นเจ้าของเวบอะไร เก่งกาจแค่ไหน ทำยอดขายให้คุณได้แน่ๆ โม้ไปเลย แต่อย่าโม้ยาวเดียวเค้าจะขี้เกียจอ่าน

ผมเอา คีเวิอร์ด มาจากไหน
       ผมเข้าไปที่ www.seodigger.com แล้วก็ใส่ชื่อ เวบไซรไปเลย มันจะมี คีเวอร์ด ของเวบนั้นๆที่เค้าใช้อยู่ออกมา เช่น dog.com มันจะมี คีเวิอร์ด ที่เวบdog.comนั้นใช้ ออกมา 2102 คำ เสร็จแล้ว ก็เอามาจัดกลุ่ม คัดแยกให้มันดี คำไหนยาวๆเอาออกไปก่อน
       ส่วนมากคีเวิอร์ดที่เจ้าของสินค้าใช้ คือ คีเวิอร์ดที่เค้าทดลองแล้วว่าเค้าขายได้ เค้าเลยใช้
***อย่า ไปใช้ คีเวิอร์ด ที่เจ้าของสินค้าห้ามใช้เด็ดขาด ไม่งั้นซวยแน่ ***

เสร็จแล้วคุณก็ค่อยเลือกคำมาใช้ กับ AD ที่คุณเขียน

       Landing Page : สำคัญมาก ถ้าไม่มี ก็อย่าทำ CJ เลย ผมไม่รูเรื่องเวบไซร์เลย ภาษาอังกริด ผมก็ห่วยมากๆ
       Landing Page : หน้าแรกที่ผมทำ คือ เขียนเป็นภาษาไทย แล้วไปให้ น้อง แปลเป็นภาษาอังกริดให้ (กอปคนอื่นๆเค้ามาบ้างด้วย)แล้ว อัพโหลดลงใน Blogspot.com ให้

       ลองเข้าไปดูได้ครับที่ http://aboutblogtips.blogspot.com/ สังเกตุวันที่ล่าสุดว่าไม่ได้อัพเดตเลย ตอนนี้ blogไม่ได้ทำแล้วครับ แต่ยังอยู่
       มือใหม่ อยากให้เริ่มใช้ blog ทำ Landing Page เพราะ มันฟรี ผมว่าถ้าดู Blog ผมอันนี้แล้วอาจจะได้ ไอเดียเพิ่มเติมขึ้นนะครับ
       บล้อกนี้ เป็นงานแรกที่ ทำกำไรให้ผมเลยครับ ประมาณ 150 ดอลล่า
แต่ที่ผมเลิกทำเพราะผมไปเจอ Landing Page รูปแบบอื่นที่ทำกำไรได้มากกว่านี้เยอะ

สรุปรูปแบบการทำ CJ ของผมเริ่มที่ CJสินค้า -- AD + คีเวิอร์ด -- landing page -- gg yahoo msn --

วันนี้เริ่มที่ คีเวิอร์ด ก่อนละกัน
ที่ถามมาว่า



Quote
  • ใช้ Mass Keyword เหมือนคุณ Asiram หรือป่าวครับ

  • วิธีหา Keyword Niche แนะนำให้ใช้ Tool ตัวไหนดี

       รูปแบบของผมจะต่างกับ asimar ตรงที่ว่า เค้าจะเน้นใช้คีเวิอร์ดเยอะๆ แต่ของผมจะใช้คีเวิอร์ดประมาณ 5-20 ตัว ต่อ ad และต่อ Landing Page
บาง Ad ของผมมี คีเวิอร์ด แค่ 2 ตัวเท่านั้น

       คือ คีเวิอร์ด ของผมมันจะต้อง ไปเข้ากับ Ad และหน้า Landing Page คือมีความหมายไปในทางเดียวกัน

รูปแบบของผม คือ อย่างคำว่า
คีเวิอร์ด คำว่า Dog Food (คำนี้มันกว้างไปอย่าไปใช้)
ผมก็จะเขียน AD ว่า ลองเข้ามาดูที่เวบเราจะไม่เสียเวลาไปหาที่อื่น คือถ้าหาซื้อ Dog Food อยู่เข้ามาเลย เสร็จแล้วก็จะส่ง ไปที่ Landing Page ที่จะเป็นตัวบอกว่า Dog Food ที่ไหนมีขายบ้าง ราคาเท่าไร ยี่ห้อไหนดี ซื้อกับใครดี รายละเอียดต้องอย่ายาวมาก (เดี๋ยวค่อยมาคุยเรื่องรายละเอียด Landing Page กันอีกที)

Quote
  • วิธีหา keyword niche แนะนำให้ใช้ tool ตัวไหนดี

       เวลาหาคีเวิอร์ด ผมจะใช้แต่ของฟรี คือ www.seodigger.com แล้วค่อยๆมาคัดเอาคำเอาเอง
       คือผมจะ ต้องดูก่อนว่า อาหารหมา มีเวบใครขายบ้าง แล้วก็เอามาดูในเวบ seodigger แล้วเลือก คำมาแข่งกับเค้า
       เราไม่ต้องแข่งกับเค้าทุกคำ ลองเลือกกลุ่มคำที่มีความหมายใก้ลๆกัน แล้วเริ่มแข่งกับเค้าดู เช่น dog food จะแบ่งไปตามยี่ห้อ แบ่งไปตามพันธุ์ของหมา แบ่งหลายแบบ คือ ไปดูว่า dog.com และ petco.com เค้าใช้คีเวอร์ดอะไรบ้าง

       เวลาผมเสนอขายสินค้า ในหน้า Landing Page ผมจะเสนอไปทีละ หลายๆเจ้าให้เค้าเลือกซื้อเลย ทั้งรูปแบบจะคล้าย เวบ www.bizrate.com บวก กับ Amazon.com

แต่ข้อเสียของทั้งสองเวบ bizrate และ amazon คือ ผมคิดว่ามันขาดพนักงานขาย

       ผมคิดว่า Landing Page มันก็เหมือนพนักงายขายของ หรือ เด็กเชียเบียร์ ที่จะต้องกระตุ้นให้ซื้อ
       เราต้องใส่พนักงายขาย (Tacking ID) เข้าไปใน Landing Page เราด้วย เมื่อก่อนผมเคยเป็นคนขายเสื้อยืดอยู่ที่ตลาดนัด ผมเลยรู้ว่าถ้าพูดยังไงลูกค้าเค้าจะซื้อ

       มันก็เหมือน เวลาไปห้าง lotus ถ้าไปแผนกขายทีวี จะมีพนักงานมาคุยกับคุณ เค้าคุยอะไรกับคุณ
       บางทีอย่าไปมองอะไรไกลตัว หรืออ่าน ebook ของฝรั่งเค้ามากไป รูปแบบการขายของคนไทยนี่แหละที่อย่ามองข้าม หยิบเอามาใช้ แล้วเอามาประยุกกับการขายใน CJ

ถ้าลูกค้าเข้ามาที่ Landing Page เราแล้ว เราจะมีสินค้าอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีพนักงานขายด้วย

       คือ ประมาณว่า เอา Bizrate + Amazon + พนักงานขายแนะนำสินค้า
ยิ่งคุณ ได้รับ อนุยาต ให้โฆษณา สินค้าได้หลายเจ้ามากเท่าไร คุณก็จะมีสินค้า มาให้ลูกค้าเลือกได้มาก

Quote

ยกตัวอย่าง คุณรู้ไหมว่า ถ้าจะซื้อ notebook vaio ที่ไหนถูกที่สุด?
amazon หรือ bestbuy หรือ sonyshop หรือ...
คำตอบ คือ เข้ามาที่หน้า Landing Page ของผม คุณจะรู้ได้เลย

       ไอเดียของผม คือว่า ถ้าเสียเงินให้google แล้ว เราส่งลูกค้าเค้าไปที่ หน้าเวบ amazon.comหน้าเดียว ลูกค้าเค้าจะเลือกได้ยังไง
       แต่ถ้าส่งไปที่หน้า Landin Page เราแล้วเค้าได้เลือก คลิกที่ลิ้งไหนของเรา เราก็ได้ค่าคอมทุกลิ้ง ไม่เสียเวลา ไม่พอใจเวบคนขายก็กด back กลับมาที่เวบเราแล้วเลือกลิ้งอื่นของเรา " ถ้าในหน้า Landing Page มี 5 ลิ้ง เราก็มีโอกาศ 5 ครั้งให้ลูกค้าเลือก "

       แต่ถ้าคุณส่งเค้าจากsearch ของ google ไปที่ หน้าเวบโดยตรง เช่น หน้าเวบbestbuy.com แล้วลูกค้าไม่พอใจ เค้ากด back กลับมาก็เจอหน้า search ของ google แล้วเค้าก็ไปคลิกที่ โฆษณาคนอื่นเราก็จบเลย

นี่คือ Landing Page แบบ คร่าวๆ ตอนผมเริ่มทำ ผมก๋เริ่มทำทีละหน้า ค่อยๆทดลองดูว่าขายได้ไหม

       AD ก็สำคัญ เวลา ผมเริ่มทดสอบ Ad ขั้นตอนนี้เปลืองเงินมาก (ต้องพูดกันยาว)
       เริ่มแรกเราจะไม่รู้เลยว่า คู่แข่งเค้า bid คีเวิอร์ด กันที่ราคาเท่าไร
แต่ผมจะเริ่มที่ตั้งค่าบิดไว้ที่ 0.5 แล้วตั้งงบไว้ที่ 5 ดอลล่าต่อวัน ผ่านไปซักพัก ก็จะเห็นแล้วว่า ad เราอยู่ที่เท่าไร
       ข้อสำคัญ ในการทดสอบ คือ Ad เราต้องอยู่ที่หน้าแรกเท่านั้น หรืออย่างมากคือ อันดันที่ 11-13

เสร็จแล้วก็มาดูค่า CTR คือ ผมจะมีมาตฐานของผมไว้เลยว่า
  • ถ้า AD เราอยู่อันดับที่ 1-3 ค่า CTR จะเท่ากับ 18-30%

  • ถ้า AD เราอยู่อันดับที่4-6 ค่า CTR จะเท่ากับ 10-15%

  • ถ้า AD เราอยู่อันดับที่7-10 ค่า CTR จะเท่ากับ5-10%

       ถ้าต่ำกว่านี้ แปลว่า Ad ของผมเขียนไม่ค่อยดี ไม่สัมพันกับ คีเวิอร์ด
ใน AD ผมทุกอัน จะต้องมีคีเวิอร์ด อนู่อย่างน้อย 2 อัน ในad นั้น เช่น คีเวิอร์ด big dog food ใน ad จะต้องมีคำว่า dog food อยู่ที่บรรทัดแรก และอีกคำอยู่ที่ ไหนก็ได้ใน ad

       ที่ต้องมี keyword อยู่ 2 อัน เพื่อ adword จะจัดประมวลผลเราออกมาว่า ยอดเยี่ยม แล้วผ่านไปซักพัก ราคาต่อคลิกจะลดลง
       ที่สำคัญคือ url ที่โชว์ กับ url ที่ส่งไปใน adword ต้องเป็นอันเดียวกัน แล้วรับลอง ค่าบิดคุณจะลดลง และอันดับจะดีมาก
หรือถ้าทำไม่ได้ ก็ให้ไปจด url มาใหม่ แล้วใช้ url forward ไปที่ลิ้งที่เราจะส่งไปก็ได้

Quote
       การที่ทำ CJ โดยใช้ LP กับ ไม่ใช้ LP มันต่างกันยังไงเหรอคับ
lp นี่คือ Landing Page ใช่ไหมครับ

ผมเคยทำมาทั้งสองแบบ กับ คีเวิอร์ด เดียวกัน เช่นคำว่า

psp download คำนี้เป็นคีเวิอร์ดทำเงินครับ เพื่อนๆเอาไปใช้ได้ แต่ google เค้าห้ามใช้แล้ว

       จากคีเวิอร์ดคำนี้ ทำให้ผมเห็นว่า การที่เรามี landing page ผมขายได้ เงินมากกว่า ไม่มี Landing Page ครับ
นี่คือพลังของ Landing Page วันนี้

รายจ่ายของ adword วันนี้
โฆษณา แข่งที่ ไอเดีย ครับ ไม่ใช่เงิน



       จริงๆหลายๆคนคงสงสัยว่าผมมานั่งบอก อะไรคนอื่นๆเค้าทำไม
ผมไม่ได้ต้องการอะไรแค่อยากบอกว่า ตลาดมันใหญ่มาก รายได้ผมมาจากสินค้าแค่ 20 บริษัท และผมมี สินค้าอีกหลายตัว ที่ผมรอเข้าไปแข่งอยู่ ตอนนี้ทุนพร้อมแต่เวลาไม่มี บางอันแข่งผมก็แพ้ บางอันได้ที่1 บางอันได้ที่5
       แต่ใน CJ มันมีสินค้าเยอะมาก อยากให้พี่ๆน้องๆ ลองมาได้อ่านรูปแบบใหม่ๆ ของผมบ้าง เผื่อเป็นทางเลือก ในการดำเนินธุรกิจ

การทดสอบ AD กับ คีเวิอร์ด

เรื่องนี้สำคัญ ต้องใช้ทุน ในการทำ และเรื่องการเลือกคีเวิอร์ดมาใช้ ต้องมีหลักการ



       เรื่อง ของ Landing Page ยังมีอีก แต่คงไม่มีตัวอย่างให้ดู เสียใจด้วย และ เรื่องการทำ Adword มีทริกนิดหน่อย

       และสำคัญสุด การฆ่าคู่แข่ง หรือ เจ้าของคีเวิอร์ด ต้องเล่นมันให้ตาย เราจะได้เป็นเจ้าของคีเวิอร์ดทำเงิน (รูปแบบสายดำ)
บางทีอาจโดนเค้าเล่นเรามาก่อน

Quote
       "ตลอดปีที่ผ่านมา ผมแข่งมาเยอะ เจอเล่นมาหลายรูปแบบ โดนแกล้งสารพัด ทำทั้งแบบดำ และ แบบขาว
แต่ CJ เสียอย่างเดียว เค้าไม่ยอมให้ CJ Performance กับผม ไม่งั้นผมคง โดนเล่นน้อยกว่านี้"
รบกวนอธิบายประโยคนี้ด้วยครับ ไม่ทราบว่าเค้าสามารถแกล้งเรายังไงได้บ้าง(ดำ-ขาว เป็นยังไง) แล้วเรามีวิธีป้องกันยังไงครับ อีกอย่าง การได้ CJ Performance จะช่วยให้ไม่โดนแกล้งเหรอครับ

       เอาการแกล้ง แบบง่ายๆ ก่อนครับ ผมเคยโดนคู่แข่ง เค้าเอา link CJ ของผม ไปโฆษณาให้ผม(เค้าคงหวังดี) ในคีเวอร์ดที่เจ้าของสินค้าเค้าห้ามไว้ แล้วถ่ายรูปและแจ้งไปทางเจ้าของให้มาตรวจดู และผมก็โดนเจ้าของสินค้าเค้าเมล์มาด่าเลย และแจ้งทางคอมไพลแอ้น ของ CJ

       วิธีแก้ก็บอกกับเค้าไปตรงๆ ว่าไม่ใช่เรา เพื่อความสบายใจเอาค่าคอม ในเวลานั้นๆคืนไปเลย บอกไปตรงๆ
       ผมมี CJ อยู่ 3 account ถ้าโดนเจ้าของสินค้าให้เลิกทำ ผมก็ใช้อีก Account ทำต่อไปก่อนเลย แต่ส่วนมากคุยกันได้ Cj เค้ามักจะช่วยเรา

       ถ้าผมได้ CJ perfromance ผมจะมีเครดิตขึ้นอีกเยอะ มันเหมือน cj เค้าจะตีตรารับรองให้เรา เวลาคุยกับ เจ้าของสินค้า หรือ คอมไพแอ้น CJ จะง่ายขึ้น แต่เค้าไม่ให้ผม เค้าเก็บไว้ให้แต่กับคนประเทศ
       นี่คือการแกล้งแบบเบสิค มีอีกหลายเคส ในการทำธุรกิจก็มีการแกล้งกันทุกธุรกิจ เป็นเรื่องธรรมดา

Quote

       ขอตอบแทนก็แล้วกัน..โดน แกล้งก็น่าจะ..แบบ ว่า โดนคู่แข่ง Click ให้เราเสียตังค์นะซิ..หรือไม่ก็แกล้ง Bid ราคา Keyword ให้สูง ล่อให้เรา หลงกล Bid แข่ง แล้วเค้าก็..ถอย เราก็รับไปเต็มๆ..อะไรประมาณนี้ครับ จากประสบการณ์ที่ลองทำมา..
อันนี้ผมเรียกว่าการเข้ามาแข่งกันครับ เป็นแบบขาว

Quote
1. จะรู้ได้ไงว่า keyword ตัวไหนทําเงินให้เราครับเพราะถ้าใช้ landing page มันจะ track ยังไงหรือครับ?
เมื่อก่อนผมส่งไปที่ advertiser เลย + tracking "?sid=xxx" ก็จะรู้ keyword ทําเงินได้บน CJ report
หรือว่าให้ทดสอบว่ามันทําเงินได้ก่อนค่อยทํา landing page? huh

       มันก็ track ยากนะครับ ผมไม่เคย track keyword เป็นคำๆ ส่วนมาก ผมจะจัดคำเป็นกลุ่มๆเช่น sony vaio ก็จะเอาคำที่ เวบไซ้เจ้าของสินค้าทุกอันที่ผมโฆษณาให้ ที่เกียวกับคำนี้ มาใช้ ดูว่าแต่ละเจ้าเค้าใช้คำไหนบ้าง แล้วก็ทำ Landing Page มาหน้านึง แล้วใช้คีเวิอร์ของแต่ละเจ้าไปเลย ถ้าขายได้ก็ขายไปเลย แล้วค่อยมาหาวิธีลดบิดเอา
       ผมคิดว่า เวลาคนหาซื้อของ เค้าจะไม่ค่อยหาหรือใช้คำแปลกๆ สมมุติถ้าคุณจะซื้อ sony vaio คุณจะใช้คำว่าอะไร
คุณคงไม่ใช้คำว่า where i can buy sony vaio คงใช้คำง่ายๆ ถ้าหาเจอสิ่งที่ต้องหารแล้วก็คงซื้อเลย

Quote
       "พอเลือกสินค้าได้ ผมก็ต้องเข้าไปที่เวบเจ้าของสินค้า แล้วดูว่า เวบนั้น มี Google Pagerank เท่าไร ถ้าน้อยกว่า 4 อย่าไปทำเสียเวลา"

2. เหตุผลเพราะอะไรหรือครับ? ยิ่งถ้าเราใช้ Landing Page มันก็ขึ้นอยู่กับเราว่าจะ Promote เค้ายังไงไม่ไช่หรือครับ?

       จริงๆผมก็ไม่รู้นะ ผมแค่คิดเอาเอง ว่า ถ้าเวบเค้าเจ๋ง Page Rank ก็น่าจะเยอะ อย่าง Cj.com ยังมี Page Rank 8 เลย
แต่ถ้าทำ Landing Page ผมก็ไม่ค่อยสนใจ Page Rank นะ

Quote
       "และสำคัญสุด การฆ่าคู่แข่ง หรือ เจ้าของคีเวิอร์ด ต้องเล่นมันให้ตาย เราจะได้เป็นเจ้าของคีเวิอร์ดทำเงิน (รูปแบบสายดำ)"

3. อันนี้ทําไงหรือครับ? ทําหลายๆ Account + Web SEO หรือเปล่า (Techique ป่าล้อมเมือง?) อยากรู้มากครับ
       จริงๆ ผมไม่อยากบอกเลย มันไม่สะอาด
ถ้าสมมุติ คุณบอกว่า หมู่บ้านผมขายไก่ย่างแล้วกำไรดี วันหนึ่งมีคนมาขายไก่ย่างแข่งกับผมแล้วทำไงดี แล้วถ้าผมบอกว่า เอามือปืนไปยิงเค้าเลยนี่แหละคือ รูปแบบสายดำ

Quote
1.ที่บอกว่าขายของประมาณ 20 บริษัทเนี่ย ทำ Landing Page ทุกที่เลยหรือเปล่าครับ

       ไม่ทุกที่ครับ ทำแต่อันที่มันขายสินค้าเหมือนกัน เช่น ที่ไหนขาย sony vaio ผมก็เอามารวมกันไว้ในหน้า Landing Page หน้าเดียวเลย โฆษณามันทีเดียวหลายๆเจ้าไปเลย
้พยายามเน้นคุณภาพ ไปที่ Landing Page เอาข้อมูลสั้นๆ ได้ใจความ ถ้า Landing Page คุณมีคุณภาพอีกหน่อย ถ้ามีหลายๆหน้ามันจะรวมกันเป็นเวบเอง

Quote
2.ขายใน Adword หรือ แบบ Web + SEO เพื่อติดอันดับ Natural Search ครับ
       เริ่มแรกต้องทำ ใน Adword ถ้าเจอคำ เจ๋งๆ แล้ว ก็ค่อยทำ SEO ผมจ้างเค้าทำ SEO ให้ผมมานานแล้ว ยังไม่ติด หน้า1เลย
คนที่ผมจ้างทำ SEO ก็นั่งหัวเลาะแบบแห้ง แล้วบอก ใจเย็นดิพี่ กินเบียร์ก่อน เดี๋ยวมันก็ติด

Quote
3.ตอนนี้ Landing Page ยังใช้ Blog อยู่หรือเปล่าครับหรือจด Domain เอง
       เมื่อก่อนใช้ Blog เพราะมันฟรี ตอนนี้ ผมจ้างเค้าทำเวบ ทำเองแล้วไม่สวยไม่อยากมาเสียเวลาศึกษาด้วย ตอนนี้มี 7 เวบแล้วครับ
ค่อยเริ่มครับ ค่อยๆทำ พอมันมีหลายๆหน้ามันก็รวมมาเป็นเวบได้เอง

       ผมต้องอัพเดตแทบทุกว่น เพราะ เดี๋ยวเจ้านู้นก็เมล์มาบอกว่า ลดราคาช่วงนี้ เจ้านี้ก็มีโปรโมชั่นแบบนั้น เราก็ต้อง อัพเดตไป มีเมล์มาทุกวัน ขนาดวันปีใหม31/12/07เจ้าของสินค้ามันยังเมล์มาหาผมเลย ไม่รู้จักพักผ่อน

Quote
4.ถ้าขายหลายๆ Web ต้องจด Domain ใหม่ทั้งหมดเลยหรือเปล่าครับ
       ก็ควรจะต้องจด Domain ผมลองสังเกตุดูแล้วว่า ใน Adword ถ้าใช้ web จะมี CTR สูงกว่าใช้ blog เยอะมาก ยิ่ง .com ได้จะยิ่งดี

Quote
เรื่อง PR ขอตอบนะคะ ไม่ทราบว่าจะถูกต้องไหม

       คือ ถ้าเว็บที่มีค่า PR ต่ำ เช่น 1-2 ก็อาจจะเป็นได้ว่า เป็นเว็บที่เพิ่งทำ และ ยังไม่มีทราฟฟิคเข้ามากนัก อาจจะแปลได้ว่า ไม่มีผู้นิยมทำการตลาด แต่ถ้าค่า PR สูงๆ หน่อยก็แปลว่า เวบอยู่มานานพอสมควร หรือ มีผู้ช่วยเป็น Aff เยอะ ทำให้มีทราฟฟิคเข้าเยอะ ยังงี้หรือเปล่าคะ

ดังนั้น พวกเวบ PR สูง มากกว่า 4 อย่างที่คุณ Bangkok-ceo บอก จึงน่าสนใจ มากกว่า PR ต่ำ

       ขอเพิ่มอีกนิดนึง ใน CJ มีเวบหลายเจ้าที่เค้าอยู่ในตลาดหุ้นอเมริกา เวบพวกนี้ ตลาดจะใหญ่ยอดขายจะเยอะ แผนการตลาดเค้าจะดี รูปแบบเวบ สินค้า หรือ แผนการช่วยคนทำaff แบบเราจะดีมาก เลือกพวกนี้ไว้ก่อนไม่ผิดหวัง เหมือนกับ ถ้าให้คุณเป็น พนักงานของ บริษัท ปตท (บริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นไทย) กับ บริษัท esso คุณว่าใครขายน้ำมันได้มากกว่ากัน

Quote ตามที่คิดนะคะ
สินค้า 20 บริษัท ทำ LP ทุกตัว และ เอาสินค้ามายำในหน้าสินค้าประเภทเดียวกันค่ะ เช่น สินค้าอาหารสุนัข มี 8 บริษัท ก็เอาประเภทเดียวกันมาลงในหน้าเดียวกัน เป็นต้น เช่น วิตามันสำหรับสุนัข มีสินค้าประเภทนี้ 5 บริษัท ก็อาจจะเป็นได้ ว่า ทำหน้าสินค้าวิตามิน ในหน้าเดียวกันเลย ส่วนสินค้า ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสัตว์เลี้ยงแสนรัก ก็จะทำไปอีกหน้านึง ถูกไหมคะ

       เรื่องการโปรโมท หรือ การหาทราฟฟิค คิดว่า น่าจะเป็น PPC อย่างเดียวนะคะ แต่ SEO เป็นผลพลอยได้ค่ะ เพราะ traffic เข้ามาก นานวัน อันดับมันก็น่าจะขึ้นด้วยนะคะ
ถูกต้องแล้วครับ ผมทำแบบนี้

Quote
       เรื่องจด Domain เค้าบอกแล้วว่า พยายามให้ Destination URL และ Display URL เป็นเว็บเดียว ก็เป็นไปได้ว่า จดทุก Domain ค่ะ ไม่ได้ทำโดเมนเดียว จับ 20 บริษัทมาลงแน่ๆ ถูกต้องไหมคะ

       ถ้า Display URL กับ Destination URL เป็นอันเดัยวกัน แล้วใน AD มีคีเวิอร์ด เราอยู่ 2 คำ นี่แหละเรียกว่า เพอร์เฟ็ค แบบนี้ Google จะชอบเรามาก
เค้าจะให้ รูปแสดงว่า คีเวิอร์ด กับ AD กับ Landing Pang มันสัมพันกันดี แล้วค่าใช้จ่ายเราจะลดลง

Quote
       แบบนี้ก็ได้นี่ครับ www.xxx.com/keyword1 www.xxx.com/keyword2 ไม่งั้นคงเปลืองน่าดู แต่ถ้าเปลืองได้แล้วเงินเยอะกว่าเดิมผมก็เอา
ใช่ครับ ได้เหมือนกันครับ ถูกต้องแล้วครับ

       จริง รูปแบบ การทำของผมมันก็ไม่มีอะไรมาก หลายท่านคง จะรู้ทริก ผมหมดแล้ว
       ทริกของผมก็คือจะเน้น ทำเวบหรือ Landing Page คุณภาพออกมา แล้วใช้ Adword โปรโมท โดยไปเอา Keyword มาจากเจ้าของสินค้าที่เราโปรโมทให้
วันหลังจะเอา เคส ต่างๆที่ทำและเจอมา มาเล่าให้ฟังครับ

Quote
       จริงๆผมหุ้นทำร้านเหล้ากับเพื่อนอยู่ด้วยครับ (http://www.yohii.com) เปิดมาได้หลายเดือนแล้วช่วงนี้ขายดี อยู่แถวใต้ทางด่วนราอินทราอาจนรง กทม.
กลางวันก็ทำงาน office ว่างเมื่อไรก็มาทำ CJ (แต่รายได้จาก CJ 1 เดือน= เงินเดือนผม 12-18 เดือน) กะว่าปีนี้ถ้ายอดขายCJไม่ตก จะลาออกจากงาน Office แล้วครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

 

Followers

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

My Blog List

ข่าวเด่นข่าวด่วน

Site Info